เมนู

ใจ ในบัดนี้นั้น เป็นการไม่กระทำบาปกรรมต่อไป ทั้งนี้ เพราะหมดกรรม
เก่าด้วยตบะ. เพราไม่ทำกรรมใหม่ ความไม่ถูกบังคับต่อไปจึงมี เพราะไม่ถูก
บังคับต่อไป ความสิ้นกรรมจึงมี เพราะสิ้นกรรม ความสิ้นทุกข์จึงมี เพราะ
สิ้นทุกข์ ความสิ้นเวทนาจึงมี เพราะสิ้นเวทนา จักเป็นอันพวกท่านสลัดทุกข์
ได้ทั้งหมด. คำที่นิครนถนาฏบุตรกล่าวแล้วนั้น ชอบใจและควรแก่พวก
ข้าพเจ้าแล เพราะเหตุนั้น พวกข้าพเจ้าจึงเป็นผู้มีใจยินดี ดังนี้.

การกล่าวถึงผู้อยู่สบายดีกว่า


[220] ดูก่อนมหานาม เมื่อพวกนิครนถ์กล่าวอย่างนี้แล้ว เราได้
กล่าวกะนิครนถ์เหล่านั้นว่า ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบละหรือว่า
เราทั้งหลายได้มีแล้วในกาลก่อน มิใช่ไม่ได้มีแล้ว .
นิ. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย.
พระ. ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบละหรือว่า เราทั้งหลาย
ได้ทำบาปกรรมไว้ในกาลก่อน มิใช่ไม่ได้ทำไว้.
นิ. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย.
พระ. ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบละหรือว่า เราทั้งหลาย
ได้ทำบาปกรรมอย่างนี้บ้างๆ
นิ. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย.
พระ. ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบละหรือว่า ทุกข์เท่านี้
เราสลัดได้แล้ว หรือว่าทุกข์เท่านี้เราต้องสลัดเสีย หรือว่าเมื่อทุกข์เท่านี้ เรา
สลัดได้แล้วจักเป็นอันสลัดทุกข์ได้ทั้งหมด.
นิ. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย

พระ. ดูก่อนนิครถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบการละอกุศลธรรม การ
บำเพ็ญกุศลธรรม ในปัจจุบันละหรือ.
นิ. ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย.
พระ. ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ ตามที่ได้ฟัง พวกท่านไม่รู้ว่า ในปาง
ก่อนเราได้มีมาแล้วหรือไม่ ไม่รู้ว่าในปางก่อนเราได้ทำบาปกรรมไว้หรือไม่
ทั้งไม่รู้ว่าเราได้ทำบาปกรรมไว้อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่รู้ว่าทุกข์เท่านี้เราสลัดได้
แล้ว ทุกข์เท่านี้จำต้องสลัด เมื่อสลัดทุกข์อย่างนี้ได้แล้ว ทุกข์ทั้งปวงจักเป็นอัน
สลัดไปด้วย ไม่รู้จักการละอกุศลธรรม และการยังกุศลธรรมให้เกิดในปัจจุบัน
ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ เมื่อเป็นเช่นนี้ คนทั้งหลายจักบวชในสำนักของท่าน
ก็เฉพาะแต่คนที่มีมารยาทเลวทราม มือเปื้อนโลหิต ทำกรรมชั่วช้า เป็นผู้
เกิดสุดท้ายภายหลังในหมู่มนุษย์.
นิ. ดูก่อนท่านพระโคดมผู้มีอายุ บุคคลมิใช่จะประสบความสุขได้ด้วย
ความสุข แต่จะประสบสุขได้ด้วยความทุกข์แท้ ก็ถ้าหากบุคคลจักประสบความ
สุขได้ด้วยความสุข พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ ก็คงประสบ
ความสุข เพราะพระเจ้าพิมพิสาร จอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ อยู่เป็นสุขกว่าท่าน
พระโคดม.
พระ. เป็นการแน่นอน ที่พวกท่านนิครนถ์ทั้งหลายหุนหันไม่ทัน
พิจารณาจึงพูดว่า ดูก่อนท่านพระโคดมผู้มีอายุ บุคคลมิใช่จะประสบความสุข
ด้วยความสุข แต่จะประสบความสุขได้ด้วยความทุกข์แท้ ก็ถ้าหากบุคคลจัก
ประสบความสุขได้ด้วยความสุข พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ ก็คง
ประสบความสุข เพราะพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ อยู่เป็นสุขยิ่ง
กว่าท่านโคดม เออก็เราเท่านั้นที่พวกท่านควรซักไซร้ไล่เลียงในเรื่องสุขเรื่อง

ทุกข์นั้นสิว่าใครเล่าหนอจะอยู่สบายดีกว่ากัน พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพเจ้าแผ่น-
ดินมคธ หรือท่านพระโคดมเอง.
นิ. ดูก่อนท่านพระโคดมผู้มีอายุ เป็นการแน่นอนที่พวกข้าพเจ้าหุน-
หันไม่ทันพิจารณา จึงพูดว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ บุคคลมิใช่จะประสบความ
สุขด้วยความสุข แต่จะประสบความสุขได้ด้วยความทุกข์แท้ ก็ถ้าหากบุคคลจัก
ประสบความสุขได้ด้วยความสุข พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ ก็
คงประสบความสุข เพราะพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ อยู่เป็นสุข
ยิ่งกว่าท่านพระโคดม เอาละ หยุดไว้เพียงเท่านี้ บัดนี้ พวกข้าพเจ้าจะต้อง
ถามท่านพระโคดมดูบ้างว่า ใครเล่าหนอจะอยู่สบายดีกว่ากัน พระเจ้าพิมพิ-
สารจอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ หรือท่านพระโคดมเอง.
พระ. ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ ถ้าอย่างนั้น เราจะต้องถามพวกท่าน
ในเรื่องสุขเรื่องทุกข์นั้นดูบ้าง ท่านเข้าใจอย่างใด ก็พึงแถลงอย่างนั้น ดูก่อน
ท่านนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านจะเข้าใจความข้อนั้นเป็นไฉน พระเจ้าพิมพิสาร
จอมทัพ เจ้าแผ่นดินมคธจะทรงสามารถ ไม่ทรงไหวพระกาย ไม่ทรงพระดำรัส
ทรงเสวยพระบรมสุขส่วนเดียวอยู่ 7 คืน 7 วัน ได้หรือ.
นิ. ไม่ไหวล่ะท่าน.
พระ. ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่าน จะเข้าใจความข้อนั้นเป็นไฉน
พระเจ้าพิมพิสาร จอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ จะทรงสามารถ ไม่ทรงไหว
พระกาย ไม่ทรงพระดำรัส ทรงเสวยพระบรมสุขส่วนเดียวอยู่ 6 คืน 6 วัน
5 คืน 5 วัน ... 4 คืน 4 วัน ...3 คืน 3 วัน ...2 คืน 2 วัน ... เพียง
คืนหนึ่ง วันหนึ่ง ได้หรือ.
นิ. ไม่ไหวละท่าน.
พระ. ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ เราแหละสามารถไม่ไหวกาย ไม่พูด
เสวยความสุขส่วนเดียวอยู่ เพียงคืนหนึ่งวันหนึ่ง. สามารถไม่ไหวกาย ไม่พูด

เสวยความสุขส่วนเดียวอยู่ 2 คืน 2 วัน ...3 คืน 3 วัน...4 คืน 4 วัน...
5 คืน 5 วัน...6 คืน 6 วัน...7 คืน 7 วัน ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ พวก
ท่านจะเข้าใจความข้อนั้นเป็นไฉน เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครจะอยู่สบายกว่ากัน
พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธหรือเราเอง.
นิ. เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านพระโคดมสิ อยู่สบายกว่าพระเจ้าพิมพิสาร
จอมทัพเจ้าแผ่นดินมคธ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสดังนี้ แล้ว เจ้าศากยะมหานามทรงมีพระทัย
ชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วแล.
จบ จูฬทุกขักขันธสูตร ที่ 4

อรรถกถาจุลลทุกขักขันสูตร


จุลลทุกขักขันธสูตร มีคำเริ่มต้นว่า ข้าพเจ้าได้สดับดังนี้:-
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สกฺเกสุ ได้แก่ ในชนบทมีชื่ออย่างนั้น .
ก็ชนบทนั้นถึงอันนับว่า สักยา เพราะเป็นสถานที่อยู่ของราชกุมารชาวสักยะ
ทั้งหลาย. ก็ความอุบัติแห่งสักยะทั้งหลาย มาแล้วในอัมพัฏฐสูตรเทียว บทว่า
กปิลวตฺถุสฺมึ คือ ในนครที่มีชื่ออย่างนั้น. จริงอยู่ นครนั้นเรียกว่า กบิลพัสดุ์
เพราะเป็นนครที่สร้างขึ้นในสถานเป็นที่อยู่ของฤาษีชื่อว่า กปิล. ทำนครนั้น
เป็นที่โคจรคาม. บทว่า นิโคฺรธาราเม ความว่า เจ้าศากยะพระนามว่า
นิโครธ ครั้นเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาสู่กรุงกบิลพัสดุ์ ในกาลแห่งญาติ
สมาคม พระองค์ทรงให้สร้างวัดในสวนของพระองค์ มอบถวายแด่พระผู้มี-
พระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธารามนั้น. บทว่า
มหานาโม ได้แก่ พระเจ้าพี่ของพระอนุรุทธเถระ ทรงเป็นโอรสของพระเจ้าอา
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า. เจ้าทั้ง 5 พระองค์นี้ คือ พระเจ้าสุทโธทนะ พระเจ้า
สุกโกทนะ พระเจ้าสักโกทนะ พระเจ้าโธโตทนะ พระเจ้าอมิโตทนะ ทรงเป็น
พระเจ้าพี่พระเจ้าน้อง พระเทวีพระนามว่า อมิตา ทรงเป็นพระภคินีของ
พระเจ้าเหล่านั้น พระติสสเถระเป็นบุตรของพระนางอมิตานั้น พระตถาคต
และพระนันทเถระเป็นพระโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ พระเจ้ามหานามะ และ
พระอนุรุทธเถระ เป็นพระโอรสของพระเจ้าสุกโกทนะ พระอานนทเถระเป็น
พระโอรสของพระเจ้าอมิโตทนะ พระอานนทเถระนั้นเป็นพระกนิษฐ์ของพระผู้มี
พระภาคเจ้า พระเจ้ามหานามะทรงแก่กว่า เป็นสกทาคามีอริยสาวก. บทว่า
ทีฆรตฺตํ ความว่า ทรงแสดงว่า ข้าพระองค์รู้จำเดิมแค่ข้าพระองค์บรรลุ